ในปี 2009 กับความสำเร็จที่มากขึ้นของการร่วมทุนและได้ทำการอัพเกรดมาเป็น iPhone 3GS ที่ออกมาพร้อมกับแอพฯใหม่กับเข็มทิศแต่ก็ไม่เพียงพอที่นำความสำเร็จมาได้แบบล้นเหลือขายได้ 1 ล้านเครื่องในสัปดาห์แรก และแอพฯที่เพิ่มขึ้นเป็น 85,000 และยอดการดาวน์โหลดอีก 2 พันล้านครั้ง
ข้ามมาที่ปี 2010 กับการออกแบบรูปร่างหน้าตาโฉมใหม่กับรุ่น iPhone 4 ที่ดึงดูดเหล่าบรรดาสาวกและผู้คลั่งไคล้กับฟีเจอร์ที่ออกมาเรียกร้องความสนใจได้ดีกับ Face Time, VDO HD, Retina Display และกล้อง 5 ล้านพิกเซล โกยเอาส่วนแบ่งไป 1.2 ล้านเครื่องในสัปดาห์แรก
จนมาสู่ปัจจุบันกับ iPhone 4S ในปี 2011 ที่อัพเกรดขึ้นมาจาก iPhone 4 มาพร้อมกับเลขาคู่ใจอย่าง Siri และ iCloud ที่มาพร้อมกับ iOS 5.0 กับการอัพเกรดฮาร์ดแวร์โดยใช้ชิปเดี่ยวกับ iPad 2 คือ A5 และกล้อง 8 ล้านพิกเซลแต่ก็เพียงพอที่จะเรียกความนิยมได้แบบ...ว๊าวส์!! กับยอดขาย 4 ล้านเครื่องในสัปดาห์แรกมีผู้ใช้ทั้งหมดตอนนี้ 70 กว่าประเทศแล้วรวมถึงยอดการดาวน์โหลดอีก 15,000 ล้านครั้งกับแอพฯอีก 425,000 แอพฯใน App Store
คลิปแสดงการเปรียบเทียบคุณสมบัติของไอโฟนตั้งแต่รุ่น 2G ถึง 4S
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัยภายในประเทศไทยจะมีผู้ใช้ไอโฟนอย่างมากมาย แต่ผู้ที่ใช้เหล่านั้นรู้หรือไม่ว่าบทบาทและความสำคัญของไอโฟนนั้นไม่มีมีไว้แค่เล่นเกมAngry bird, post - check in Facebook, etc. แต่ไอโฟนยังมีความสามารถในหลายๆอย่าง เช่น สามารถแต่งทำนองเพลงใหม่ๆ โดยทำผ่านApplication ที่โหลดจาก App store นำมาสร้างเพลง อย่างเช่น...
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าไอโฟนที่ทุกคนใช้อยู่นั้น มีความสำคัญในการสร้างสรรค์เพลง หรือนอกจากนี้จะเป็นพวกการตกแต่งรูปที่ระลึกจากการไปสถานที่ที่เราสนใจ เก็บไว้เป็นความทรงจำของเรา หรือเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์โดยโหลดE-book หรือสูตรทำอาหารนานาชนิด-นานาชาติไว้ฝึกการทำอาหาร การค้นหาสถานที่ต่างๆที่เราจะไป สภาพภูมิอากาศ และอื่นๆอีกมากมาย ถือว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันของเราต่างมีข้อดีและข้อเสีย เทคโนโลยีของเรามีการพัฒนาให้เหมาะกับความต้องการ ความสะดวกสบายของเรา โดยขึ้นอยู่กับว่าเราที่เป็นผู้ใช้นั้น จะใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นให้เหมาะสมกับเราเองให้มากที่สุดได้อย่างไร...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น